วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

หากท่านใดสนใจอยากเลี้ยงสุนัข ตอนนี้มีสุนัขตำรวจปลดประจำการ โปรดติดต่อ..

"หากท่านใดสนใจอยากเลี้ยงสุนัข ตอนนี้มีสุนัขตำรวจปลดประจำการทั้งตัวผู้ ตัวเมีย อายุ9ปีขึ้นไป รับใช้ชาติมาโชกโชน ดมระเบิด ระวังโจรใต้มาตลอดชีวิต ถูกขังในคอกเฉยๆ รอความตายน่าสงสาร มีทั้งลาบราดอร์ เยอรมันเชพเพิด หากสนใจรับเลี้ยงฟรีนะครับ หรือช่วยส่งข่าวแก่ผู้สนใจช่วยทำบุญกับวีรบุรุษสี่ขาของชาติได้
  ครูฝึกทุกคนเล่าให้ฟังว่าน้องหมาที่อยู่ที่กองพันน่าสงสารกันมาก เค้าดูแลไม่ดีเลย ขังให้อยู่ในคอกอย่างเดียว ไม่มีใครพาไปเดินเล่นเลย เศร้านะได้ยินแบบเนี้ย
   ทุกตัวได้รับการอบรมมาดี อยู่ในระเบียบและเชื่อฟังเจ้าของมากๆ สามารถอยู่ต่อได้อีก4ปีขึ้นไปครับขอบคุณนะครับ เบอร์ติดต่อ
089 ~ xxx xxxx
จะว่าไปแล้วก็ดีนะ ไม่ต้องไปเสียค่าเล่าเรียนให้น้องหมา เป็นน้องหมาที่จบปริญญามาแล้ว เริ่มงานได้เลย"

ข้อความข้างต้นนี้ แพร่กระจายผ่านสื่อสังคมออน์ไลน์ต่างๆ ทั้ง Fackbook line e-mail รวมถึงช่องทางต่างๆ โดยไม่ทราบที่มา คนที่ได้รับ ก็กดส่งต่อ ให้คนรู้จัก และไม่รู้จัก ส่งกันแบบสาธารณะ ด้วยอยากจะช่วยสุนัขตามข้อความที่ได้รับมา

หยุด! หยุดก่อนครับ
1. ลองอ่านดู คิดในมุมกลับบ้าง ว่าถ้าข้อความนี้ไม่เป็นจริง มีใครเดือนร้อนไหม

คิดๆๆ มีแน่ๆ เจ้าของเบอร์นี่ไง และอาจจะรวมไปถึง สุนัขตำรวจจริงๆ ที่อาจจะเดือนร้อน เพราะผู้เลี้ยงจริงๆ ถูกตำหนิ จากเพื่อนบ้าน เพื่อนบนโซเชียล อย่างงง ว่าเค้าเลี้ยง ดูแลเพื่อนคู่ชีวิตนี้ ไม่ดียังไง?
ทำไป ทำมา เจ้าหน้าที่ อาจจะต้องรับโทรศัพท์สอบถามเรื่องนี้ทั้งวัน จนลืมให้อาหาร สุนัขตำรวจเลยก็ได้ (เวอร์มะ)

2. ข้อมูลนี้น่าจะเป็นจริงไหม ..

่เราๆ ท่านๆ ที่อ่านข้อความนี้ แล้วส่งต่อ เกือบทุกคน รักสุนัขครับ แล้วลองคิดซิครับ ว่าหากเป็นท่านที่เป็นผู้ดูแลสุนัขดังกล่าว ที่เสี่ยงชีวิต กิน นอน อยู่ด้วยกัน ยิ่งกว่าเราๆ ท่านๆ อย่างครูฝึก ที่อยู่กับสุนัขเหล่านี้จริงๆ จะรักและผูกพันธ์กันขนาดไหน (คุ้นๆ ว่าเคยฟัง ท่านนึงให้สัมภาษณ์ ประมาณว่า รักยิ่งกว่าลูก กว่าเมีย) เมื่อปลดประจำการ จะยอมปล่อยทิ้งๆ ขว้างๆ อย่างที่ข้อความที่ใครก็ไม่รู้ ส่งมาหรือเปล่าครับ ขนาดท่านเอง ที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยได้ยินเสียงเห่า ของมันเลย ยังเป็นห่วงขนาดเสียเวลา กดคลิ๊กส่ง copy ส่งขนาดนี้ แล้วคนรักกัน ที่อยู่ด้วยกัน จะทิ้งขว้างหรอครับ

เพิ่มเติมข้อมูลจาก page Dogilike



และเพิ่มเติมอันนี้จาก pantip (http://pantip.com/topic/32006164)
-เราอ่านแล้วสงสาร เลย search เนท ดู พบว่า การดูแลสุนัขหลังปลดประจำการก็ดีเยี่ยม (ตามคำบอกเล่าของคนที่ไปรับเลี้ยง : ไม่ได้เหมือน fwd ที่ว่า ไม่ใส่ใจ)
-แต่เราก็เผื่อๆ น้องหมาอยากมีเจ้าของ อ๊ะ เดี๋ยวช่วย fwd ให้ แต่ให้ชัวร์ เลยส่ง sms ไปเบอร์ที่ลง ถามดู
- น้องเค้าตอบว่า เบอร์ส่วนตัว โทรมาเยอะมากกกกเป็นร้อยๆ สาย (ทั้งสงสารน้องเค้า ทั้งดีใจที่คนใจบุญเยอะ 55)

เราเลยโทรหาที่ รร ฝึกสุนัขตำรวจ K9 กรุงเทพ เมื่อกี้ เค้าว่าช่วงนี้ไม่มีนะ ทำเสียงมึนงง ว่าทำไมโทรวันหยุด และ
ถามถึงที่มา เลยอ่านข้อความให้ฟัง เค้าชี้แจงว่า
1. สุนัขตำรวจ มีแต่ตัวผู้ (ใน fwd บอกว่าทั้ง ผู้ และ เมีย : เราก็เพิ่งรู้)
2. คำว่า "กองพัน" ใช้กับ 'ทหาร' เท่านั้น 
(ดังนั้น เดาว่า เป็นสุนัขทหาร : เพิ่งรู้เหมือนกัน มีสุนัขทหารด้วย คุ้นแต่ตำรวจ - 
ที่เราอ่านเจอการรับเลี้ยง คือ ทหารค่ะ)
3. ลงเบอร์มือถือไม่ใช่วิสัย เพราะนี่เป็นเรื่องราชการ ต้องลงเบอร์ราชการ คืนมือถือก็รับสายกันตาย
4. สุนัขตำรวจต้องประมูล เล็กๆ น้อยๆ เหมือนซื้อของราชการ ให้ฟรีเดี๋ยวผิดระเบียบ (ประมาณนี้)

คุณเค้าบอกว่า สุนัขทหารมีที่ ปากช่อง เป็นสุนัขทหารบก แต่สุนัขทหารอากาศ ก็มีที่ดอนเมือง!
แม่เจ้า มีหลายกองด้วยวุ้ย

เค้าแนะนำว่า ถ้าสนใจสอบถามเกี่ยวกับ สุนัขตำรวจ โทรไป (เวลาราชการ)
"กองกำกับการสุนัขตำรวจ หลักสี่ เบอร์กลาง 02-573-7125"

สรุป รักหมา จริงๆ คิดก่อน share นะครับ... (เกี่ยวกันไหม)

ขอบคุณข้อมูลจาก

  • https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%82%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/295090937175648
  • https://www.facebook.com/Dogilike
  • http://pantip.com/topic/32006164
  • http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU9USTVNVEV6T0E9PQ==&sectionid=

วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

"อีกไม่เกิน 3 เดือน" วัดพระบาทน้ำพุ ต้อง ..ปิดลง!!(ถ้าไม่อ่าน) ” ขอทานน้ำใจ “ 1 แชร์ 1 ธรรมทาน”

 ่อีกไม่เกิน 3 เดือน" .....วัดพระบาทน้ำพุ ต้อง ..ปิดลง!!(ถ้าไม่อ่าน) ” ขอทานน้ำใจ “ 1 แชร์ 1 ธรรมทาน” ... “ 15 บาท ของท่าน ช่วยผู้ป่วยโรคเอดส์ " ทุกคนในนี้มีมือถือใช่ไหมครับ ".....ขอซัก 15 บาทได้ไหม เพื่อผู้ป่วยโรคเอดส์ ไม่ว่ามือถือคุณจะเครื่องละพัน หรือเครื่องละหมื่น ขอแค่ 15 บาท... " บริจาคให้วัดพระพุทธบาตรน้ำพุ "...ง่ายๆ แค่กด 1900-222-200 และกด 1 แค่นี้ คุณก็...ได้ร่วมทำบุญแล้วค่ะ เรื่องจริง โทรไปเช็คที่วัดแล้ว) ..ขอบคุณสำหรับทุกสาย
ทานบารมี อนุโมทนา ด้วยนะครับ 

หลายท่านจะได้รับการส่งต่อข้อความประมาณนี้ คล้ายๆ ประมาณนี้ ประมาณว่า อีกไม่เกิน 3 เดือน วัดพระบาทน้ำพุ ต้องปิดตัวลง พร้อมกับข้อความเชิญชวนให้บริจาคเงินช่วยเหลือ ผ่านทางหลากหลายช่องทาง เช่น กดเบอร์ 1900-222-200 และช่องทางอื่นๆ อีก เช่น เบอร์บัญชีของวัด 

เข้าใจว่าหลายๆ คนที่กดแชร์ข้อความนี้ มีความปรารถนาดี อยากจะช่วยเหลือวัด รวมถึง คิดด้วยว่า ไม่เห็นจะดูเป็นช่องทางอะไรเลย อย่างน้อย แชร์ๆ ไป ช่วยกันได้

ประเด็นปัญหาของการแชร์สิ่งดีๆ ที่น่าจะดีนี้คือ

1. มีการบิดเบือนข้อความจริง เพราะวัดพระบาทน้ำพุ มีสถานะทางการเงินค่อนข้างมั่นคง อยู่ได้โดยไม่ต้องได้รับเงินบริจาคเพิ่มเติมมากกว่า 3 เดือน 
(อ้างอิง: การให้สัมภาษณ์ของหลวงพ่ออลงกตเองที่เผยแพรเมื่อ 23 เม.ย. 2556) ตามนี้เลยครับ 


ซึ่งในกรณีนี้ทางวัด ได้ขอร้องให้หยุดแชร์ (share) ข้อความข้างต้น เพื่อไม่ให้มีปัญหา หรือเป็นประเด็นต่อตัววัดเอง ตามภาพเหล่านี้




2. มีความสงสัยในประเด็นของการบริจากเงินผ่านการกดเบอร์ 1900-222-200 ยากจะสรุปอย่างนี้นะครับเบอร์ 1900-222-200 เป็นของวัดพระบาทน้ำพุ จริงไหม? กดแล้ววัดได้เต็มๆ หรือเปล่า จากที่ผมค้นหา พบว่า ทาง Facebook ของวัดพระบาทน้ำพุ มีการลงรายละเอียดไว้ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2010 เวลา 1:04 น. ว่า 

    1. เป็นเบอร์ที่ทางวัดได้รับเงินจริง 
    2. อัตราการบริจาคเป็นครั้งละ 15 บาทโดยที่ทางวัดจะได้จาก TOT 15 บาท และระบบอื่นเช่น GSM, DTAC, TRUEMOVE ทางวัดจะได้ 13.50 บาท
    3. ตรวจสอบผ่าน Facebook ทางวัด เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2557 มีข้อความชี้แจงว่า ทางวัดได้รับเงินบริจาคเต็มจำนวน
    4. อันนี้ผมสรุปแทนแล้วกันนะครับ ว่าข้อมูล ณ. ปัจจุบัน เบอร์ 1900-222-200 เป็นของวัดจริงๆ และวัดได้เงินครบตามที่ท่านประสงค์ แต่ในอดีตอาจจะไม่ใช่ และในอนาคตก็คงไม่มีใครบอกได้  (ความคิดเห็นส่วนตัว หากไม่สะดวก กดได้ แต่หากสะดวก เข้าเว็บตรวจสอบ โอนเงินดีกว่า)
แน่นอนครับ ว่าทางวัดพระบาทน้ำพุ ยังคงต้องการความช่วยเหลือ จากการบริจาคเงิน ในการบริหารจัดการกิจกรรม ที่ดีมากๆ นี้ ของทางวัดและหลวงพ่ออลงกต และบทความนี้ไม่ได้เขียนเพื่อให้หยุดบริจาค ช่วยเหลือ เพียงแต่การจะบอกกล่าว ให้ใครช่วยเหลือนั้น ควรจะเป็นเรื่องจริง มิใช่เรื่องโกหก เพื่อให้คนหลงเชื่อ เพราะอาจจะส่งผลกระทบที่คาดไม่ถึงได้ เช่น คนอาจจะมองว่า หากวัดมีการดำเนินการกิจกรรมจริงๆ แล้ว ทำไมต้องโกหก เพื่อให้บริจาคด้วย เรื่องเล็กๆ อาจจะส่งผลใหญ่ได้เช่นกันนะครับ 

สรุป วัดพระบาทน้ำพุ ยังคงดำเนินการช่วยเหลือผู้ป่วยและเด็กกำพร้าอย่างเต็มที่ และมีกาบริหารให้มั่งคง จนไม่ปิดใน 3 เดือนอย่างที่เป็นข่าวแน่ๆ  ส่วนการบริจาค แนะนำให้เข้าตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของทางวัด น่าจะดีที่สุด เชื่อว่ามีจิตกุศลที่จะช่วยเหลือแล้ว การตรวจสอบคงไม่ลำบากมากนัก เพื่อไม่ให้มิจฉาชีพ นำข้อความผิดๆ เหล่านี้ ไม่กล่าวอ้าง ซึ่งอาจจะทำให้ทางวัด เสียความเชื่อถือ และส่งผลกระทบต่อกิจกรรมของวัดในอนาคตได้ 

อ้างอิง
http://phrabatnampu.org/
https://www.facebook.com/phrabatnampu
http://board.postjung.com/688192.html
http://hilight.kapook.com/view/85105